การผสมพันธุ์กวาง
การผสมพันธุ์ของกวางจะมีความสัมพันธ์กับการงอกของเขา ในตัวผู้เมื่อเขากวางแข็งตัวเต็มที่เป็นเวลาที่กวางตัวผู้พร้อมผสมพันธุ์
ซึ่งจะมีอายุประมาณ 2 ปี ถ้าไม่ทำการตัดเขา ก็จะเริ่มขวิดกันเองหรือขวิดต้นไม้เมื่อไม่มีคู่ต่อสู้
ดังนั้นในการเลี้ยงกวางจึงต้องทำการตัดเขาออกเพื่อความปลอดภัยของกวางในฝูง
ปกติอัตราส่วนของการให้เพศคุมฝูงแม่พันธุ์โดยเฉลี่ย กวางแดงประมาณ
1:15 กวางรูซ่าประมาณ 1:20 ฤดูการผสมพันธุ์ของกวางจะผันแปรไปตามภูมิประเทศ ในบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร
ฤดูผสมพันธุ์อยู่ในระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ส่วนในเขตอบอุ่นฤดูผสมพันธุ์จะสั้นลงประมาณ
1.5 - 2 เดือน เช่นทางภาคใต้ของประเทศไทย ฤดูผสมพันธุ์กวางรูซ่าจะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเจริญของเขาด้วยกวางที่ผสมติดมีระยะเวลาตั้งท้อง 8 เดือน
10 วัน ส่วนมากตกลูกเพียงตัวเดียว อัตราการเกิดลูกแฝดมีน้อยมาก
การเก็บข้อมูลการผสมพันธุ์เป็นเรื่องจำเป็น ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถคัดเลือกกวางเพื่อไว้เป็นพ่อ/แม่พันธุ์ต่อไปได้
หรือกวางตัวใดที่สมควรคัดทิ้ง ในด้านการจัดการเกี่ยวข้องกับการบันทึกข้อมูลการผสมพันธุ์นั้นคือวิธีการทำเบอร์
ซึ่งผู้เลี้ยงควรพิจารณาวิธีการที่เหมาะต่อสภาพของฟาร์มและทุนทรัพย์การให้ลูกในฟาร์มกวาง
ฟาร์มกวางที่ประสบผลสำเร็จควรมีการให้ลูกที่หย่านม
แล้วเฉลี่ยทั้งฟาร์มร้อยละ
85 โดยเฉลี่ยของทั้งฟาร์ม
ซึ่งนับว่าใกล้เคียงกับศักยภาพของกวางในธรรมชาติ
ทั้งนี้เพราะในการเลี้ยงปกติความสูญเสียที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ประมาณร้อยละ 10
โดยความสูญเสียนี้จะเริ่มนับตั้งแต่เวลาผสมติดแล้วไปจนถึงช่วงหย่านมส่วนอีก
ร้อยละ
5
ของการสูญเสียนั้นน่าจะถือเป็นเรื่องของฝีมือกล่าวคือถ้าฟาร์มใดไม่ได้มีการ
สูญเสียหรือสูญเสียในอัตราส่วนที่ต่ำก็ถือว่าเป็นกำไร
แต่ถ้าเกินร้อยละ 5 นี้ผู้เลี้ยงกวางควรจะลองไปดูในรายละเอียด โดยเริ่มตั้งแต่น้ำหนักของกวางสาว และแม่กวางว่าอยู่ในภาวะที่เหมาะสมหรือไม่เพาะจุดนี้จะเชื่อมโยงไปถึงความ สามารถในการผสมติดเป็นหลักดังกล่าว ในจุดต่อไปนั้นควรดูที่การตายหลังการคลอด ซึ่งส่วนมากมักเกิดขึ้นตั้งแต่แรกคลอดไปจนถึงอายุ 1 สัปดาห์ และอีกจุดหนึ่งก็คือตั้งแต่อายุ 1 สัปดาห์ไปจนอายุหย่านมเลยทีเดียว
จากประสบการณ์ฟาร์มกวางในต่างประเทศนั้นส่วนใหญ่
การสูญเสียจะเกิดขึ้นจากช่วงแรกคลอดจนถึง
1 สัปดาห์ (neonatal) โดยถ้าหากน้ำหนักแรกคลอดต่ำกว่า 3 กก.
นั้นโอกาสที่จะมีชีวิตรอดภายใน
48 ชั่วโมงนั้นนับว่าต่ำมากทีเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกวางคลอดในช่วงฤดูร้อนก็แทบจะทำให้เปอร์เซ็นต์การ
เลี้ยงรอดเท่ากับศูนย์
แต่หากลูกวางมีชีวิตรอดพ้นช่วง 2 - 3 สัปดาห์แรกไปได้แล้ว
โอกาสที่จะมีชีวิตรอดไปจนระยะหย่านมก็เป็นไปได้สูงมาก
จากการผ่าซากของลูกวางที่ตายระหว่างแรกคลอดจนถึง
อายุ 2 -
3 สัปดาห์นั้น
ส่วนใหญ่พบลักษณะของการได้รับอาหารไม่เพียงพอหรือจะเรียกว่าอดอาหารเลยก็ว่า
ได้
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะสืบเนื่องมาจากการมีน้ำหนักแรกคลอดค่อนข้างต่ำ
คือต่ำกว่า 3 กก. นั้นเองจึงทำให้มีอาหารสะสมไม่พอต่อการใช้
และควบคู่กันไปนั้นก็คือความอ่อนแอทำให้ไม่สามารถช่วยตัวเองในการหาดูดน้ำนม
จากแม่ประกอบกับแม่กวางเองก็มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง
ทำน้ำหนักเมื่ออายุแรกผสมพันธุ์ไม่ถึง 30 กก.
จึงเป็นสาเหตุร่วมกันทำให้ต้องสูญเสียลูกกวางไปในที่สุดได้โดยง่าย
เมื่อลองพิจารณาสาเหตุทั้งหมดแล้วก็สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุส่วนใหญ่นั้นก็
เนื่องมาจากอาหารไม่เพียงพอ
ในส่วนของกวางสาวนั้นจุดสำคัญ
คือจะทำอย่างไรให้กวางสาวมีน้ำหนักสูงพอเมื่อถึงระยะผสมพันธุ์
(เมื่ออายุไม่เกิน 10 เดือน) หรือมีน้ำหนักถึง 30
กิโลกรัมภายในอายุไม่เกิน
16 เดือน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของน้ำหนักโตเต็มที่
ทั้งนี้เนื่องจากน้ำหนักของกวางสาวในระยะแรกผสมพันธุ์นั้นมีความสัมพันธุ์
ต่ออัตราการผสมติดค่อนข้างสูง
กล่าวคือ ถ้ากวางสาวมีน้ำหนักตัวสูงกว่า 30 กิโลกรัม
ก็จะผสมติดง่ายคลอดลูกเร็ว
และให้ลูกที่มีสุขภาพแข็งแรงกว่ากวางสาวที่มีน้ำหนักตัวน้อย
สำหรับตัวผู้นั้นอาจกล่าวได้ว่ามีปัญหาน้อยกว่ากวาง
ตัวเมียมาก
ทั้งนี้เพราะตามธรรมชาติของมันนั้นในช่วงฤดูร้อนกวางตัวผู้จะพยายามกินอาหาร
ให้มากเพื่อจะได้สะสมเป็นไขมัน
สร้างความแข็งแกร่งให้เกิดขึ้นแก่ร่างกายเพื่อความพร้อมในฤดูผสมพันธุ์
(rut)
กวางตัวผู้ที่มีอายุมากและน้ำหนักตัวมากแล้วนั้นจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่ากับ
กวางตัวผู้ที่อายุได้เพียง
2 - 3 ปี
ซึ่งเป็นอายุที่กำลังเริ่มผสมพันธุ์โดยอาจจะมีน้ำหนักลดลงถึง 15 กก.
ในเวลาอันรวดเร็วได้ เหตุการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เจ้าของฟาร์มกวางควรทำนั่นก็คือการพยายามประคองไม่ให้กวาง
สูญเสียน้ำหนักไปกว่านี้
ซึ่งนั้นก็หมายถึงว่าจะต้องพยายามให้กินอาหารให้มากและสมบูรณ์ที่สุดก่อนถึง
ฤดูผสมพันธุ์
และเมื่อผ่านพ้นฤดูผสมพันธุ์ไปแล้วก็ต้องให้อาหารอย่างสมบูรณ์ที่สุดต่อไป
ด้วยเช่นกัน
กวางตัวผู้นั้นหลังฤดูผสมพันธุ์จะกินเก่งเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
จึงขึ้นอยู่กับเจ้าของฟาร์มว่าจะเข้าใจความต้องการของกวางหรือไม่เท่านั้นเอง
และในส่วนของการหย่านมนั้นควรหย่านมลูกกวางที่น้ำหนัก 15 - 18 กก. จะดีที่สุดและควรหย่านมก่อนถึงฤดูผสมพันธุ์ถ้าเป็นไปได้
0 comments :
Post a Comment